- ทำไมคุณถึงอยากมาทำงานที่นี่
แน่นอนผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไมคุณถึงต้องการที่จะทำงานในบริษัทของเขา และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้า คุณอาจจะตอบว่า
"ดิฉัน/ผมมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มาก และก็ทราบมาว่าทางบริษัทได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้แสดงความสามรถได้อย่างเต็มที่ค่ะและดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอของพนักงานทุกคน และพร้อมจะแก้ไขถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถพัฒนาบริษัทให้มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ ที่สำคัญดิฉัน/ผมมั่นใจครับว่าผมสามารถที่จะปฏิบัติงานตามจุดมุ่งหมายของบริษัทให้ประสบความสำเร็จร่วมกันได้เป็นอย่างดี"
ผลว่าตอบอย่างนี้ใช้ได้เลยทีเดียวล่ะครับ......หุหุ
2. ทำไมคุณถึงออกจางานที่เคยทำอยู่
คำถามนี้จะง่ายมาก สำหรับน้องๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถามที่บากมาสำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว และเป็นคำถามที่ตรงประเด็นมากเลยทีเดียว เพราะหากคุณพอใจต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ทำหรอกจริงมั๊ยครับ คำถามนี้จึงเป็นคำถามที่คุณต้องเตรียมตัวอย่างมากเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น
"ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ที่น่าจะเหมาะกับตัวผมมากกว่าที่ผมเคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้เหมาะสมกับผม และผมก็พร้อมที่จะทำงานตรงนี้มากที่สุด"
และที่สำคัญ อย่าได้นำข้อเสียที่คุณได้รู้จักจากบริษัทเก่า มาเล่ามาพูดเด็ดขาดเพราะสิ่งนั้นอาจทำให้คะแนนแห่งความเชื่อถือของคุณลดลงก็ได้ เพราะคงไม่มีที่ไหนอยากได้คนที่ออกงานมาแล้วเผาบริษัทเก่าซะวอดวาย มันจะส่งผลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของบริษัทเขานะครับจำไว้
3. ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อๆ
ข้อมูลส่วนตัว ประวัติ ความเป็นมาเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงนิสัยใจคอของคุณได้ สามารถบอกถึงความเหมาะสมกับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถามจึงควรอยู่ในแง่ของการทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัวและแง่คิดของชีวิตบ้างนิดหน่อย คุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น
"ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอ เพราะฉะนัน้เวลาในการทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับคือ เวลาที่ผมรอใคร แล้วคนๆนั้นไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยได้ทั้งๆ ที่เหตุผลของเขา เป็นเหตุผลที่น่าฟังมากก็ตาม และตอนนี้ผมกำลังหาวิธีเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ"
เห็นมั้ยครับ ดูดีออกจาตายไป หุหุ
4. คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด
คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึงความสามารถของคุณที่จะทำให้กับบริษัท การบอกถึงคุณสมบัติที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่าเป็นการโอ้อวดว่าคุณเก่งนะครับแต่สิ่งที่คุณพูดนั้นจะสามารถสร้างน้ำหนักในการตอบคำถามให้แก่คุณได้
5. จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา
เจอคำถามนี้เข้า ก็ทำให้อึ้งเอาการอยูที่เดียว ก็แหมใครอยากจะไปทำงานล่วงเวลาหากไม่ได้อะไรตอบแทนจริงมั๊ยครับ ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึงความพร้อมเสมอในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่าค่าตอบแทนอาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลาจะไปตรงกับตารางนัดสำคัญกับคนพิเศษของคุณก็ตามประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงานล่วงเวลาเสมอครับ"
6. เรื่องทั่วๆไป
ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึงเรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นข่าวทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและค่านิยมที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าวหนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่า คุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าวสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบันของคุณเพิ่มขึ้นมาก็ได้
7. ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต
เป็นการพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึงทิศทางในอนาคตได้ นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใครสามรถรู้ได้ คุณยังวางแผนสู่อนาคตได้อย่างเป็นระบบ นั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิดย่ำอยู่กับที่ถูกมั๊ยครับ
8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม
ข้อนี้จะเจาะประเด็นว่า คุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณให้เกิดประโชยน์มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่า เริง เปิดเผย หรือ เก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่าคุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะถูกถามต่อว่าหนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่านคือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ ยังสามารถได้รู้ถึงความละเอียดอ่อนของคุณ การรู้จักสังเกตการมีปฏิภาณไหวพริบ กระทั่งการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ อีกด้วยครับ
9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่
ยากนะครับ กับการตอบคำถามนี้ ถ้างานที่คุณไปสมัครระบุเงินเดือนไว้แล้วก็เกิดความสบายใจหน่อย เพราะ อย่างน้อยก็ทำให้คุณประเมินได้ว่าเงินเดือนที่ระบุไปในในสมัครเขาก็รับได้อยู่ระดับหนึ่งแต่ถ้าไม่ได้ระบุก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควนตอบตามอัตราเงินเดือนที่คนทั่วไปได้รับกันครับ เช่น อาจจะถามเพื่อนที่ทำงานเหมือนกับตำแหน่งที่คุณสมัคร หรือตอบตามเงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้ แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์เสนอเงินเดือนมาสูง หรือต่ำกว่าอัตราที่คุณรู้คุณก็อย่าเพิ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบ เพราะถ้าเกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีกลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเลไม่น่าเชื่อถือก็ได้
10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกมั้ย
นี่เป็นคำถามที่บ่งบอกว่าการสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง แต่ในการตอบคำถามข้อสุดท้ายนี้ จะตอบยังไงล่ะ ถึงจะแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเราไม่ได้โง่นะ ผมว่าคุณอาจจะถามย้ำ เรื่องเวลาการทำงานก๋ได้นะครับ เช่น
"ผมอยากทราบเวลาที่แน่นอนในการทำงานของผมครับ"
หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการถามไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิดสงสัยจริงๆ ก็ควรตั้งคำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด
คำถามที่พูดมาข้างต้นนี้ดูแล้วก็ไม่ยากเลยนะครับ สำหรับการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานของคุณ แค่คุณมีความพร้อมกับคำถามเด็ดๆนี้ คุณก็สามารถชนะใจกรรมการได้แล้ว อย่างน้อยมันคงมีสักคำถามล่ะ ที่ตรงกับการเตรียมตัวของคุณและสร้างความมั่นใจในการตอบคำถามของคุณได้ แล้วอย่าลืมนำไปปฏิบัติดูนะครับ เพราะสิ่งนี้เป็นเส้นทางที่จะทำให้คุณสามารถได้รับคัดเลือกเป็นพนักงานในบริษัทที่คุณใฝ่ฝัน ได้อย่างภาคภูมิใจในที่สุดครับ